วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

แมวพันธุ์สีสวาด (Silver blue)
 
แมว สีสวาดหรือบางคนอาจเรียกว่าแมวโคราชเป็นที่นิยมเลี้ยงในไทยกันเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นแมวที่เป็นมงคลให้โชคลาภ  อยากจะรู้จักกับแมวพันธุ์นี้ให้มากขึ้นไหมคะ งั้นมาศึกษากันเลย
  •  ถิ่นกำเนิด  จากประเทศไทย พบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา(โคราช) ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่ามากมายหรือเป็นตำนานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมีหางหงิกงอมากเท่าไหร่จะมี โชคลาภมากเท่านั้น แต่คนไทยบางกลุ่มจะเรียกแมวโคราชว่า แมวสีสวาด
  • ลักษณะ     ลักษณะที่เป็นข้อเด่น
    - ลักษณะสีขน  ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย
    - ลักษณะของส่วนหัว : หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน
    - ลักษณะของนัยน์ตา : นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน
    - ลักษณะของหาง  หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
                คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า แมวสีสวาดเป็นแมวนำโชคลาภของคนโคราช และคนเลี้ยงทั่ว ๆ ไป จะนำมาซึ่งความสุขสวัสดิมงคลแก่ผู้เลี้ยง แมวสีสวาดเคยประกวดชนะเลิศในระดับโลกมาแล้วในปี พ.ศ. 2503 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นแมวตัวเมียชื่อว่าสุนัน และเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศมาก จึงนับว่าแมวไทยได้ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยเป็นอันมาก
                      ลักษณะที่เป็นข้อด้อย
    ขนยาวเกินไป มีสีอื่นปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
  • อุปนิสัย   แมวโคราชมีนิสัยที่แตกต่างจากแมวสายพันธุ์อื่นอย่างเห็นได้ชัด แมวโคราชจะมีนิสัยค่อนข้างฉลาด จำแม่น ขี้ประจบ ถ้าหากเรานำแมวโคราชไปปล่อยในต่างสถานที่ แมวฯ สามารถที่จะกลับมาที่บ้านของตัวได้ มีนิสัยคล้ายสิงห์โต จะสร้างอาณาจักรของตัวเองโดยการฉี่รอบสถานที่อยู่อาศัย แมวต่างถิ่นที่เป็นตัวผู้จะไม่ให้กล้ำกลายเข้ามา ยกเว้นตัวเมีย ตัวเมียถ้าหากอยู่รวมกันเป็นฝูงจะแบ่งชั้นวรรณะกัน ถ้าหากเราให้อาหารรวมกัน ตัวที่เป็นจ่าฝูงจะกินอาหารก่อน และไล่รองลงมา แต่การเลี้ยงลูกกลับมีนิสัยเหมือนสิงห์โต ตัวเมืองจะช่วยกันเลี้ยงลูก แมวถึงแม้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง แม้แต่อาหารก็จะให้ลูกแมวกันก่อนแล้วค่อยกินทีหลัง แม่แมวจะฝึกลูกของตัวเองในการดำรงชีพ และป้องกันตัวโดยการสัตว์เล็กมาให้หยอกเล่นเป็นการฝึกการหาอาหารและป้องกันตัวเอง แมวโคราชมีนิสัยที่จะเจ้าของแม่นมาก ถ้าคนแปลกหน้าเข้ามาจะไม่ไว้วางใจหรืออาจจะขู่เลย แต่ถ้าเป็นเจ้าของจะวิ่งมาเคล้าแข้งเคล้าขา ประจบสอพลอ
    • การดูแล  แมวสีสวาด มีอายุขัยประมาณ 10-15 ปี ใกล้เคียงกับสุนัข และใช้เวลาการตั้งท้องประมาณ 63 วัน คลอดลูกครั้งละ 1-7 ตัว แต่ส่วนมากจะคลอดลูกประมาณ 4 ตัว สำหรับวิธีการเลี้ยงดูหากเลี้ยงที่บ้านปกติควรดูแลเรื่องการให้ยาถ่ายพยาธิและการฉีดวัคซีนมากเป็นพิเศษ  โดยยาถ่ายพยาธิควรให้เป็นระยะ ๆ ประมาณ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง และฉีดวัคซีน 3 ชนิด ปีละ 1 ครั้ง ประกอบด้วย วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันหัดแมว และวัคซีนป้องกันลิวคีเมียร์ ซึ่งลิวคีเมียร์เป็นโรคแมว ลักษณะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง หากเป็นแล้วมักไม่มียารักษา จึงต้องฉีดยาป้องกันไว้ก่อน แค่นี้แมวสีสวาดก็จะมีอายุยืนยาวอยู่กับเราได้นาน ๆ
             สำหรับราคาของเจ้าแมวโคราชหรือแมวสีสวาดก็เริ่มต้นที่ 2,000 บาทขึ้นไปและมีราคาสูงถึงหลักแสนเลยก็ว่าได้  เพราะคนไทยถือว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวมงคล ยิ่งมีลักษณะตรงตามตำราละก็ยิ่งทำให้ราคาสูงเข้าไปใหญ่  สำหรับใครสนใจแมวพันธุ์นี้ก็หามาเลี้ยงสักตัวนะคะ  ถือว่ช่วยกันอนุรักษ์แมวไทยให้คงงอยู่ไปโดยไม่สูญหายกันด้วยค่ะ
     

    แมวทราย  (Sand cat)

     

     สำหรับคำจำกัดความย่อ ๆ ของแมวทราย (Sand cat) นั้นกล่าวได้ว่าเป็นแมวป่าขนาดเล็กกระจายอยู่ตามทะเลทรายแอฟริกาและเอเชีย มีขนาดลำตัวยาว 39-57 เซนติเมตร หนัก 1.4-3.4 กิโลกรัม มีขนยาวที่เพิ่มขึ้นระหว่างนิ้วเท้า สามารถอาศัยอยู่ได้ในอุณภูมิตั้งแต่ -5 ถึง 52 องศาเซลเซียส สามารถอดน้ำได้เป็นเดือนโดยอาศัยน้ำที่อยู่ในอาหารเท่านั้น  ได้ยินกันขนาดนี้แล้วก็คงอยากรู้ข้อมูลอย่างละเอียดแล้วใช่ไหมคะ 

    • ถิ่นที่อยู่อาศัย  กระจายอยู่ทั่วไปตามทะเลทรายแอฟริกาและเอเชีย โดยพบมากในแถบทะเลทรายซาฮารา  ทะเลทรายอราเบียน  ทะเลทรายแถบอิหร่านและปากีสถาน
    • สายพันธุ์   เป็นแมวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  ชื่อเต็มของมันก็คือ Feris magarita เป็นสัตว์ตระกูลแมวชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย
    • ลักษณะ     แมวทรายเป็นที่มีขนาดเล็กที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ตัวผู้ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักเพียง 2.1-3.4 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียหนัก 1.4-3.1 กิโลกรัม   ลำตัวสีน้ำตาลซีดจนถึงเทาอ่อน ขนแน่น หนานุ่ม บริเวณหลังเข้มขึ้นเล็กน้อย หน้าท้องซีดจาง มีลายริ้วจาง ๆ ตามลำตัวและขา มีเส้นสีน้ำตาลแดงพาดที่แก้มตั้งแต่หางตา ครึ่งล่างของหน้าและหน้าอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน ใบหูใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยมปลายเรียว สีน้ำตาลอมแดง ปลายหูสีดำ ใบหูอยู่ห่างกันและค่อนมาทางข้างหัว ปลายหางมีปล้องบาง ๆ หลายปล้อง ปลายหางสีดำ ใบหน้ากว้าง ดวงตาใหญ่ อุ้งตีนมีขนยาวหนาแน่นปกคลุม
     แมวทรายเป็นแมวที่เกิดมาเพื่ออยู่ในทะเลทรายอย่างแท้จริง ขนที่คลุมอุ้งตีนช่วยป้องกันความร้อนจากพื้นดินและช่วยเก็บเสียงขณะเดินบนพื้นผิวที่หยาบร่วน เมื่อเดินบนทรายจะแทบไม่ปรากฏรอยตีนเลย ประสาทหูไวมาก เหมาะสำหรับการหาเหยื่อในพื้นที่ที่เหยื่อหายาก คาดว่าแมวทรายได้ยินเสียงอัลตราโซนิกจากเหยื่อที่อยู่ใต้ดินได้เช่นเดียวกับเซอร์วัล

    อุปนิสัย    แมวทรายปีนป่ายและกระโดดไม่เก่ง แต่เป็นยอดนักขุด ทักษะการขุดมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีพในสถานที่ของแมวชนิดนี้  เพราะต้องใช้ในการขุดโพรงเพื่อพักผ่อนและหาเหยื่อ อุ้งเล็บไม่คมมากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะการอาศัยในทะเลทรายจึงไม่มีโอกาสได้ฝนเล็บบ่อยนัก เวลาเดินบนพื้นที่โล่ง จะเดินย่องต่ำ ๆ หูที่ใหญ่ช่วยในการค้นหาเสียงจากความเคลื่อนไหวอันแผ่วเบาได้เป็นอย่างดี เหยื่อของแมวทรายได้แก่ เจอร์บิล เจอร์บัว โวล กระต่ายป่า นก สัตว์เลื้อยคลาน และแมลง ศัตรูตามธรรมชาติได้แก่งูพิษ หมาจิ้งจอก และนกเค้าแมวขนาดใหญ่
          แมวทรายหากินเวลากลางคืน ส่วนเวลากลางวันมักใช้เวลาส่วนใหญ่ในโพรงตื้น ๆ ที่ขุดไว้ตามเนินทราย ในดงไม้แคระ หรืออาจนอนอยู่ไม่ไกลจากปากโพรง โดยนอนหงายหลังซึ่งเป็นท่านอนที่ระบายความร้อนได้ดี แมวทรายแต่ละตัวอาจยืมรังใช้กันได้ เมื่อตกค่ำ แมวทรายจะซุ่มสังเกตการณ์อยู่ปากโพรงประมาณ 15 นาที ก่อนที่จะออกจากโพรงไป แต่ละคืนแมวทรายจะเดินทางเฉลี่ย 5.4 กิโลเมตร เมื่อกลับมาที่รังในตอนรุ่งสางก็จะมาซุ่มสังเกตการณ์ที่ปากโพรงอีกครั้งก่อนจะเข้ารังนอน

    ทางชีววิทยา   ในทะเลทรายซาฮารา ลูกแมวทรายมักเกิดในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ในเติร์กเมนิสถานลูกแมวเกิดในเดือนเมษายน ในปากีสถานมักเกิดในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่วนในแหล่งเพาะเลี้ยงไม่มีฤดูผสมพันธุ์ที่แน่นอน

             ตั้งท้องนานประมาณ 60-69 วัน ออกลูกคราวละ 1-8 ตัว ปกติ 2-3 ตัว ออกลูกในโพรงหรือหลืบหิน ลูกแมวแรกเกิดหนัก 50-60 กรัม ลืมตาได้เมื่ออายุได้สองสัปดาห์ ลูกแมวทรายพัฒนาเร็วมาก หลังจากเกิดก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 12 กรัม เริ่มออกจากรังได้เมื่ออายุได้ 3-4 สัปดาห์ กินอาหารแข็งได้เมื่ออายุได้ 5 สัปดาห์ เมื่ออายุได้ 3-4 เดือนก็แยกจากแม่ไปหากินเองได้แล้ว และจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ได้เมื่ออายุได้ 9-14 เดือน ในแหล่งเพาะเลี้ยงมีอายุได้ถึง 13 ปี
    แมว ทรายจัดว่าเป็นสัตว์ที่หายาก และไม่ค่อยพบการนำมาเลี้ยง  แต่ความหายากของมันก็ไม่ได้หมายความว่าแมวพันธุ์นี้จะสูญหายไปได้ง่าย เพราะการที่มันอยู่ในที่ทุรกันดารแช่นนี้จึงทำให้มันปลอดภัยจากอันตรายได้ มากพอสมควร  และคนท้องถิ่นยังมีความเชื่ออีกด้วยว่าแมวชนิดนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของศาสดา มูฮัมเม็ดและลูกสาว จึงไม่ถูกล่าจากคนท้องถิ่น  ถ้าอยากเห็นตัวจริงเชื่อว่าตามสวนสัตว์น่าจะมีให้เห็นอยู่นะคะ

    แมวอเมริกัน ช๊อตแฮร์ (American shorthair cat)
     
  • ถิ่นกำเนิด   จากประเทศสหรัฐอเมริกา  เมื่อครั้งมีการโยกย้ายถิ่นฐานของคนยุโรปไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ แมวถูกนำลงเรือไปเพราะต้องการใช้ประโยชน์จากมันในการล่าหนูมิให้ทำลายข้าวของซึ่งที่นำไปด้วยนั้นมีหลายตัว และได้ผสมพันธุ์กันจนได้ลูกที่มีลักษณะเฉพาะออกมาให้เห็นอย่างปัจจุบัน
  • ลักษณะ     เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวใหญ่โต มีกล้ามเนื้อแข็งแรงเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ ยาวขนาดปานกลาง ใบหูขนาดกลางและขอบเป็นทรงกลมมน หัวรูปไข่แต่มีคางที่ค่อนข้างใหญ่ชัดเจน ดวงตาแมวพันธุ์นี้กลมโต ขอบตาด้านนอกด้านบนจะโค้งลงมา สีของตาเป็นสีเขียว  มีลักษณะสีขนและรูปร่างมากกว่า 80 แบบ มีตั้งแต่ สีน้ำตาล striking tabby ไปจนถึง แมวสีขาวตาสีฟ้าสดใส หรือ shaded silvers สี smoke และสี camero รวมทั้งสี calico van และสีอื่นในระหว่างนี้ แต่สีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือสี silver tabby โดยจะมีลายสีดำเข้ม พลาดอยู่บนพื้นสีเงิน (ลายเสือ)
    • อุปนิสัย     อเมิรกัน ช๊อตแฮร์เป็นที่รักใคร่และเป็นมิตรกับเจ้าของมาก นิสัยของมันยังปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเจ้าของที่เลี้ยงดูได้  แม้เจ้าพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์จะไม่ต้องการเอาใจใส่มากมายแต่มันก็ชอบให้คุณเล่นด้วยนะคะ เพราะมันเป็นแมวที่รักความสนุกสนานกับการเป็นผู้ล่าบางครั้งมันก็ชอบการเล่น ไล่จับสัตว์ของมันไปเรื่อย เป็นแมวที่ฉลาดและเต็มใจที่จะฝึก
    • การดูแล   เป็นแมวที่มีสุขภาพดี แต่สายพันธุ์นี้มักจะมีปัญหาโรคหัวใจเพราะฉะนั้นควรเลือกสายพันธุ์ที่ไม่ เกิดโรคนี้นะคะเพราะโรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรม  ถ้าคุณเกิดไปได้เจ้าพันธุ์นี้ที่เป็นโรคหัวใจ  ลูก ๆ ของมันต่อไปก็จะเป็นโรคหัวใจเช่นกันค่ะ  การดูแลพื้นฐานก็คือแปรงขนให้มัน ตัดเล็บ และทำความสะอาดใบหูของมันเพื่อให้มันมีสุขภาพดีด้วยนะคะ
    ราคา ของเจ้าแมวพันธุ์นี้ถือว่าไม่แพงมากนะคะมีตั้งแต่ 3,000 ขึ้นไป  ด้วยความน่ารักของมันแถมยังจับหนูได้อีกถือว่าเป็นแมวที่มีประโยชน์และ เลี้ยงง่ายอีกต่างหากถือว่าเป็นที่น่าสนใจของใครหลายคน  จนทำให้แมวพันธุ์นี้ได้รับความนิยมในไทยเป็นอย่างมากเลยคะ

    แมวพันธุ์หิมาลายัน (Himalayan Persian)

     พอ ได้ยินว่ารู้จักแมวพันธุ์หิมาลายันกันไหม เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้จักแต่ถ้าพูดถึงแมวเปอร์เซียก็ต้องรู้จักกันเป็น อย่างดีแน่  แมวหิมาลายันนั้นแท้จริงแล้วเป็นแมวเปอร์เซียสายพันธุ์หนึ่งนี่แหละค่ะ แล้วทำไมต้องเรียกให้ยุ่งยากนะเหรอ  งั้นมาทำความเข้าใจกันหน่อยดีกว่า
  • ถิ่นกำเนิด   จากสหรัฐอเมริกา (ไม่ใช่เทือกเขาหิมาลัยนะคะ จากเว็บต่างประเทศทั้งหลายที่ได้เข้าไปศึกษามา)
  • สายพันธุ์   เกิดจากการผสมระหว่างแมวเปอร์เซียกับแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศทำ ให้เกิดลักษณะเด่นของแมวเปอร์เซียและวิเชียรมาศผสมกันได้ลูกแมวสายพันธุ์ ใหม่ขึ้น บางครั้งจึงอาจเรียกแมวพันธุ์หิมาลายันนี้ว่า Colour point persian (อย่างเช่นถ้าจุดแต้มมันเป็นสีน้ำเงินก็จะเรียกว่า Blue point Himalayan ค่ะ)
  • ลักษณะ   เป็นแมวขนาดเล็ก  าค่อนข้างเล็ก หูสั้น จมูกสั้น แก้มนูนเต็มพอ กับสายพันธุ์ต้นกำเนิดของมัน  มีขนยาวบริเวณรอบเอวมีขนอ่อนนุ่ม รอบๆคอและแก้มมีขนครุยห้อย บริเวณหาง ขนขึ้นหนาทึบ ที่หูจะมีขนยาวเป็นกระจุกย้อยลงมาเหมือนกับพันธุ์เปอร์เซีย  แต่มีแต้มแบบแมววิเชียรมาศ (9 จุด ได้แก่ ครอบหน้า 1, หู 2, ขาทั้ง 4, หาง 1 และอวัยวะเพศ 1  จึงทำให้แมวพันธุ์นี้มีลักษณะที่โดดเด่นออกไป  แถมมันยังมีตาสีฟ้าสดใสเหมือนแมววิเชียรมาศด้วยนะคะ 
    • อุปนิสัย    ชอบซุกซน รักสนุกสนาน ขี้เล่น  มันชอบที่จะมาอยู่คลุกคลีกับคุณและชอบทำตามกิจกรรมที่คุณกระทำอยู่ด้วย  สมกับเป็นแมวที่รักเจ้าของจริง ๆ
    • การดูแล  แมวพันธุ์นี้มีขนยาวเหมือนกับเจ้าเปอร์เซียนั้น  ทำให้การดูแลเหมือนกันเลยค่ะ  แถมเจ้าแมวพันธุ์นี้ชอบที่จะให้แปรงขน ทำความสะอาดอีกด้วย
    ทำไม แมวพันธุ์นี้ถึงชื่อหิมาลายันทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัยนะเหรอ  ส่วนตัวก็ไม่อาจสรุปได้  ได้แต่เพียงคาดเดาว่าการตั้งชื่อหิมาลัยเกิดจากรูปแบบขนถ้าสัตว์ตัวไหนมีสี ขนและมีแต้มจุดแบบนี้อาจจะไม่ต้องจุดเหมือนเป๊ะแบบเจ้าวิเชียรมาศนะคะ  แค่มีแต้มจุดก็มักจะเรียกสายพันธุ์ว่าหิมาลายันค่ะ  เพราะจากที่ได้เรียนมายังมีกระต่ายสายพันธุ์หิมาลายันด้วยนะคะ  ซึ่งมันก็ไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัยแต่อย่างใด  เชื่อหรือไม่ก็ลองไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูนะคะ

    ราคา เริ่มต้นก็อาจจะสูงกว่แมวเปอร์เซียสักหน่อยนะคะ ราคาอยู่ที่ 4,500 บาทขึ้นไปค่ะ  แต่รับรองว่าถาคุณได้ครอบครงมันจะไม่เหมือนเปอร์เซียไหน ๆ แน่นอนก็มันโดดเด่นจากลูกผสมของแมววิเชียรมาศไทย ๆ ของเราอยู่ด้วย
    แมวพันธุ์แมงซ์ (Manx)
     
    • ถิ่นกำเนิด  ประเทศอังกฤษ
    • สายพันธุ์   เป็นแมวที่เกิดจากการกลายพันธุ์  โดยตอนแรกนั้นมันเป็นแมวสายพันธุ์แมวบ้านนี่แหละค่ะที่เกิดบนเกาะอังกฤษ  แล้วกลายพันธุ์จนทำให้หางมันหดสั้นลงเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นแมวสายพันธุ์แมงซ์ขึ้น
    • ลักษณะ    เป็นแมวขนาดกลาง ลักษณะเด่นของแมวพันธุ์นี้คือมีขาหลังที่ยาวกว่าขาหน้า  หัวกลม และหางสั้นมากจนถึงบางตัวดูเหมือนไม่มีหาง  ดูไปดูมาแมวพันธุ์นี้มีลักษระคล้ายกระต่ายเลยค่ะ มีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาว
    • อุปนิสัย   เป็นแมวที่ชอบเข้าสังคมและอยู่กับผู้คนได้ดี  แต่มันจะขี้อายกับคนแปลกหน้า  สายพันธุ์นี้เป็นแมวที่ฉลาดมากระดับ 5 ดาวและขี้เล่นคล้ายนิสัยของสุนัข  เป็นแมวที่สามารถเรียนรู้คำสั่งได้ดีกว่าแมวหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมากเลย ด้วยค่ะ
    • การดูแล  แมวแมงซ์ต้องการแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้นเพื่อกำจัดขนที่ตายแล้วออกไป  การดูแลตัดเล็บ แปรงฟันและพาไปพบสัตวแพทย์เหมือนแมวปกติ  แต่ปัญหาเรื่องสุขภาพอาจจะเกิดกับสายพันธุ์นี้ได้เพราะมักมีปัญหากระโรค สันหลังบกพร่องจากการกลายพันธุ์ของมัน ทำให้เกิดการสั่งการกับระบบประสาทที่ผิดปกติ  และลูกแมวพันธุ์แมงซ์ที่เป็นโรคนี้จะตายภายใน 6 เดือน เพราะฉะนั้นถ้าคุณได้แมวที่มีใบรับประกันแล้วละก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้น ไปหรอกค่ะ
    ราคาแมวพันธุ์นี้หาในเว็บไทยเท่าไหร่ก็หาไม่เจอค่ะ  สงสัยเพราะเป็นแมวที่หายากและการเกิดโรคกับลูกแมวก็มีโอกาสสูงจึงทำให้ไม่ ค่อยมีคนไทยรับเอามาเพาะพันธุ์ขายสักเท่าไหร่มั้งค่ะ  แต่อยากจะทดสอบความฉลาดของแมวพันธุ์นี้จัง  สงสัยคงต้องไปทดสอบกันไกลถึงต่างประเทศเลยละค่ะ
     

    แมวพันธุ์-แมววิเชียรมาศ

     ถิ่นกำเนิด
    แมววิเชียรมาศ เป็นแมวไทยโบราณที่มักเลี้ยงกันในวัง ตั้งแต่สมัยอยุธยา และเป็นแมวมงคลตามตำรา

    ลักษณะพิเศษของแมววิเชียรมาศ

    สีขน : แมววิเชียรมาศจะมีขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน หรือสีงาช้าง มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ในขณะที่เป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด)

    นัยน์ตา : ตามีสีฟ้า

    หัว : รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากมีลักษณะใหญ่และแบน ส่วนที่อยู่ตรงแนวระดับตาจะเป็นส่วนที่กว้างที่สุด จมูกสั้น ใบหูใหญ่ตั้งชัน ปลายใบหูจะค่อนข้างแหลม

    หาง : หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว คล้ายหางเสือ แต้มตรงหางจะมีสีเข้มจากปลายหาง และจางลงเมื่อขึ้นมาถึงโคน

    ลักษณะของแมววิเชียรมาศที่ไม่ถูกตามลักษณะ
    มีขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นสีอื่น หรือคนละสี ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นเกินไป หางขอด หางงอ ปลายหางคด

    อุปนิสัย  นิสัยขี้อ้อน รักอิสระ ฉลาด รักเจ้าของ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เสียงร้องดังและไพเราะดุจเสียงร้องเพลงการดูแล  แมววิเชียรมาศเป็นแมวที่รักอิสระ ตอนกลางวันควรให้แมวอยู่อย่างอิสระในบ้านหรือนอกบ้านก็ได้ กลางคืนอาจขังไว้ข้างในบ้าน เนื่องจากแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ และเป็นนักล่าดังนั้นอาหารจึงควรครบถ้วน มีโปรตีนที่เพียงพอ โดยให้วันละ 2 มื้อเช้า เย็น